ถ้าหากจะเอ่ยถึงพระสมเด็จ วัดระฆัง เชื่อได้เลยว่าไม่มีเซียนพระคนไหนที่จะไม่รู้จัก เพราะมีความเชื่อที่ว่าผู้ที่ครอบครองจะมี ‘พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดภัยภิบัติ คงกระพัน โชคลาภ’ จึงทำให้ตลอดหลายช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประชาชนมากมายต่างที่อยากจะถือครอบครอง ทว่าจากความจากพลังศรัทธาที่เหลือล้น ทำให้มีผู้ที่ไม่หวังผลิตพระปลอมแล้วนำมาหลอกเช่าต่อผู้ที่ไม่รู้มากมาย วันนี้ทางทีมงานจึงมี 8 เทคนิคการดูพระสมเด็จแบบง่ายๆมาให้ศึกษากันครับ (น้ำยาฆ่าเชื้อ ราคาถูก)
1.สังเกตพระที่มีผิวแห้ง หรือเป็นขุยยุ่ย เมื่อมองไกลๆ วรรณะเหลืองปนน้ำตาล (ของน้ำมันตังอิ๊ว)
โดยการกวาดสายตาดูตามแผงพระทั่วไปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งพิมพ์ทรง ทั้งสี ขนาด รูปร่าง ความหนา-บางโดยรวม ที่จะสามารถสังเกตพระสมเด็จแท้ๆ แยกออกจากพระโรงงานได้โดยง่าย แต่ก็จะมีพระโรงงานทำสี แช่สารเคมี พลาสติกอัด โปะหรือพอกสารเคมีสารพัดชนิดเพื่อเลียนแบบน้ำมันตังอิ๊วปะปนมาบ้างพอสมควร การฝึกสายตาบ่อยๆ จะสามารถแยกสีของพระสมเด็จออกจากสีพระโรงงานทอดน้ำมันได้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยที่สุดจะแยกพระโรงงานออกได้ไม่น้อยกว่า 90% ของพระที่มีในตลาด (เครื่องวัดความดัน ราคาถูก)
2.สังเกตพระที่มีเนื้อปูดสีขาวมัน หลากอายุ ถึงขาวปนเหลืองอ่อน ตามผิวองค์พระ และตามซุ้ม และตามพื้นองค์พระ
มีลักษณะเป็นเนื้อหินอ่อน หรือเนื้อเกินจากผิวเดิม ปูด หรือพอกหนา คล้ายการเคลือบกระเบื้อง แต่ผิวจะดูเป็นลูกคลื่นแบบฉ่ำๆ หลากอายุมวลสารที่ปูดจะดูมีอายุน้อย แบ่งเป็นวงอายุ เป็นชั้นๆ มีสีขาวถึงขาวปนเหลืองอ่อนที่ปลายยอด และเข้มขึ้นเมื่อลงหาฐาน (พัดลมไอเย็น ราคาถูก)
3.สังเกตพระที่ผิวมีสีนวลแบบผงแป้งฉาบบางๆ ไม่มีร่องรอยการโปะ
ที่อาจเป็นผิวคล้ายของเดิม หรือเป็นหลุมโพรงปลายเข็ม ของรูน้ำตา ปากกว้างมน กระจัดกระจายทั่วไป ผิวในหลุมทั้งหมด จะมีลักษณะเหมือนผงแป้งโรยถึงขั้นนี้จะแยกพระโรงงานออกไปได้ไม่น้อยกว่า 99% ทำให้โอกาสพลาดน้อยลง เหลือเพียงไม่เกิน 10% (เครื่องทำความชื้น ราคาถูก)
4.ขอส่องดูเนื้อพระ
เมื่อมองไกลจะต้องดูแห้ง หนึกนุ่ม เมื่อมองใกล้จะต้องดูฉ่ำ ชุ่มเป็นจุดๆ แบบวงฟองเต้าหู้ มีมวลสารหลากชนิดตามหลักในตำราพื้นฐานทั่วไป จะต้องมีจุดฉ่ำให้เห็นชัดเจน จำนวนยิ่งมากยิ่งดี ที่ถือว่าเป็นพระแท้ดูง่าย เมื่อมองผ่านเลนส์ จุดฉ่ำทุกจุดต้องเป็นวงแบบไล่ระดับความแห้ง (แอลกอฮอล์แบบเจล ราคาถูก)
มองหาจุดฉ่ำทั้งด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง มองหารูน้ำตา ที่มีทางไหลของคราบน้ำตา (แบบรูแย้ หรือรูจิ้งหรีด ที่มีทางไหลจากปากรู มีคราบฟองเต้าหู้เป็นวงๆละเอียด) และเนื้อปูดเป็นวงแบบหัวสิว หรือหัวหนอง ที่หัวใส ฐานด้านๆ ดูการยุบยุ่ยของมาลสารที่อ่อนตัวในหลุุมตามผิวขององค์พระ ถ้ามีครบอย่างที่ว่า ก็น่าจะวางใจได้กว่าครึ่ง
5.ดูพิมพ์พระ
ดูความคมชัดของพิมพ์ มีความงามของศิลปะแบบฝีมือช่างสิบหมู่ ไม่แอ่น ไม่บิด ไม่งอ (เครื่องฆ่าเชื้อด้วยเเสง ราคาถูก)
6.ดูการแตกของผิวขอบองค์พระแบบ “ริ้วเล็กๆ” ขอบมน ไม่มีความคม
จากการมีคราบน้ำมันตังอิ๊ว ฟองเต้าหู้ หรือเนื้อปูดมางอกโปะอยู่โดยธรรมชาติทั้งหน้าและหลังเป็นเนื้อแบบเดียวกัน ด้านข้างอาจมีรอยแยกให้เห็น แต่มักมีฟองเต้าหู้คลุม ดูเป็นลูกคลื่น (พัดลมไอเย็น ราคาถูก)
7.ดูตำหนิที่สำคัญของแต่ละพิมพ์
ในเบื้องต้นนี้ ยังไม่ค่อยจำเป็นนัก เพราะเมื่อดูเนื้อผ่านได้แล้ว โอกาสพลาดสูงสุดไม่เกิน 50% ฝึกดูไปเรื่อยๆ ประกอบทั้งศิลปะ พิมพ์ และตำหนิที่อาจมี จึงน่าเหลือโอกาสพลาดจะน้อยลงตามลำดับ จนน่าจะเหลือน้อยกว่า ๕๐% เมื่อดูครบดังที่กล่าวมา และทบทวนจนแน่ใจแล้ว จึงเริ่มถามและต่อรองราคา (น้ำยาฆ่าเชื้อ ราคาถูก)
8.อย่ากังวลกับการพลาดไป “ตีเก๊พระสมเด็จแท้ๆ”
อย่าเสียเวลา “ลุ้น” โอกาสหน้ายังมีอีกมาก แต่จงกังวลกับการ “พลาดไปหยิบพระโรงงาน” ที่พลาดแล้ว “ถอยยาก” (เครื่องวัดความดัน ราคาถูก)
ข้อควรระวัง
อย่าไปสนใจคำพูดใดๆของ “เซียนวิชามาร” ทั้งโดยคำพูดและโดยตำรา ที่เขาทำมาเพื่อการทำมาหากินของเขา อย่างมากก็เพียงนำมาเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา อย่านำมาเป็นความรู้เป็นอันขาด เพราะวัตถุประสงค์ของเขานั้น เขาสนใจเชิงผลประโยชน์ของเขา มากกว่าที่จะพยายามหรือตั้งใจให้คนอื่นจะมีความรู้เท่าเขา จึงอย่าเชื่อนิทานใดๆ ไม่ว่าคนเล่านิทานคนนั้นจะเป็นใคร ทุกอย่างที่อยากรู้ ให้อ่านและดูจากเนื้อพระเพียงอย่างเดียว
ขอขอบคุณบทความจากท่าน ดร. แสวง รวยสูงเนิน (แอลกอฮอล์แบบเจล ราคาถูก)